Sunday, 27 May 2012

รถไฟสวิส ปู๊นนนนน ปู๊นน Ep.1

หลายต่อหลายคนที่มาเที่ยวสวิสก็มักจะต้องประทับใจกับการเดินทางที่แสนจะสะดวกสบายที่นี่ค่ะ วันนี้เราก็เลยถือโอกาสคุยเรื่องรถไฟสวิสซะเลย ระบบการขนส่งโดยรถไฟของสวิสเนี่ยนะคะ ถือได้ว่าปลอดภัย มั่นคง เชื่อใจได้ ทันสมัย สะดวกสบาย และทั่วถึงเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยนะคะ เราจะไม่พูดเรื่องความเร็วนะคะเพราะจะทำรถไฟที่เร็วแบบเตเจเว ยูโรสตาร์ หรือว่าชินคันเซ็นของญี่ปุ่นทำไม ก็ประเทศสวิสเซอร์แลนด์มีเนื้อที่อยู่กระปิ๊ดดดเดียว เดินทางจากเมืองนึงไปเมืองนึงส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง นานที่สุดก็น่าจะสี่ชั่วโมง และอีกอย่างที่เราจะไม่พูดถึงกันในวันนี้ก็คือเราจะไม่บอกว่ารถไฟที่นี่ถูกค่ะ เอาเป็นว่าคุณภาพสมราคาแล้วกันเนอะ

ด้านหน้าของสถานีรถไฟบาเซิลค่ะ สถานีรถไฟในเมืองใหญ่ๆที่นี่ก็จะหน้าตาคล้ายๆกันนี่แหละค่ะ

เริ่มจากชื่อก่อนเลยค่ะ รถไฟที่สวิสเค้ามีชื่อว่า SBB CFF FFS โอ๊ยยยย ยาวเนอะ ทำไมต้องยาวขนาดนี้ด้วย ที่มันต้องยาวขนาดนี้เพราะสวิสมีภาษาราชการอยู่หลายภาษาค่ะ ตัวหนังสือทั้งหมดนั้นก็คือตัวย่อของการรถไฟสวิสที่เป็นภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส และก็ภาษาอิตาลีค่ะ

หน้าตานาฬิกาที่สถานีรถไฟสวิสเหมือนกันทุกที่ ดีไซน์โดย Mondine Watch Group ค่ะ
รถไฟที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็น่านั่งมากๆค่ะ ไม่ต้องยืนเบียด หรือว่าจองที่นั่งก่อน รับรองได้ว่ามีที่นั่งเพียบพอสำหรับทุกคนค่ะ รถไฟกลุ่มแรกที่เราจะพูดถึงก็จะเป็นพวก Regio (R) กะ S-Bahn (S) รถไฟสองแบบนี้จะค่อนข้างช้าหน่อยค่ะเพราะจอดทุกสถานีเป็นรถไฟท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาค/เมืองนั้นๆค่ะ

S-Bahn ของเบิร์นค่ะ
รถไฟ Regio จาก Visp-Zermatt มีกระจกใสๆข้างบนเอาไว้ชมวิวระหว่างทาง

ต่อมาก็จะเป็น Regio Express(RE) และก้อ InterRegio (IR) ซึ่งเป็นรถไฟที่ใช้ในแต่ละภูมิภาคเหมือนกันค่ะ แต่จะเร็วกว่ารถไฟแบบแรกหน่อย คือจอดแต่สถานีหลักๆในแต่ละภูมิภาคนั้นๆ หน้าตาก็เหมือนรถไฟประเภทแรก แค่จอดเป็นบางสถานีแค่นั้นเอง รถไฟแบบที่สาม  InterCity (IC) เป็นรถไฟที่ใช้วิ่งระหว่างเมืองใหญ่ๆข้ามภูมิภาคกัน อย่างเช่น เบิร์น-ซูริค หรือ เบิร์น-เจเนฟ หน้าตาของรถไฟประเภทนี้ก็จะเป็นรถไฟสองชั้นที่มีตู้ของห้องอาหารอยู่กึ่งกลางขบวน


รถไฟ IC เป็นรถไฟสองชั้นมีร้านอาหารอยู่กลางขบวนค่ะ
หน้าตาของ ICN ค่ะ มันก็ดูเหมือนว่าจะวิ่งได้เร็วกว่าเนอะ ส่วนเร็วกว่าเท่าไหร่นั้นเราก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ค่ะ แฮ่~


บรรยากาศที่นั่งบนชั้นสองของ IC ค่ะ

 แบบที่สี่ InterCity Tilting Train (ICN) มันก็คือรถไฟแบบเดียวกะ IC แหละค่ะที่วิ่งระหว่างเมือง แต่ใช้เครื่องไม่เหมือนกัน และ ICN ก็จะมีความเร็วมากกว่าด้วย รถไฟแบบสุดท้ายที่จะเอามาเล่าให้ฟัง คือ EuroCity (EC) เป็นรถไฟที่เราชอบมากที่สุดเพราะข้างในให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเครื่องบินเลย รถไฟแบบนี้เอาไว้ใช้วิ่งระหว่างเมืองใหญ่ๆ เลยไปถึงเมืองต่างๆของประเทศในยุโรปด้วยค่ะ


หัวขบวนสวยเฉี่ยยวของ EuroCity

เบาะใน EC นั่งสบายมากเลยค่ะ แถมปรับเบาะเอนได้ด้วย
บรรยากาศข้างใน EC ค่ะ ส่วนใหญ่คนจะเยอะมากเต็มเกือบทุกที่นั่ง
ที่พิเศษไปกว่านั้นของรถไฟ EC ก็คือเค้าจะมีสกรีนขึ้นโชว์แผนที่สามมิติตลอดระยะทางที่รถไฟกะลังวิ่งอยู่ตามกูเกิ้ลแมพค่ะ และก็สามรถจองที่นั่งได้ถ้าเดินทางระหว่างประเทศค่ะ แถมยังมีไฟอ่านหนังสือระบบสัมผัสอยู่ตรงกลางระหว่างเบาะที่นั่งด้วยด้วยค่ะ ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆที่มีเหมือนๆกันในรถไฟทุกประเภท (ยกเว้นรถไฟในภูมิภาค/เมือง ที่จอดทุกสถานีนะคะ) ก็คือจะมีปลั๊คไฟให้ใช้อยู่ใกล้ๆแทบทุกที่นั่งค่ะ และก็มีโต๊ะเล็กๆที่พับเก็บได้เอาไว้ทำงาน วางของ หรือทานอาหารอยู่ทุกที่นั่ง แถมระหว่างการเดินทางยังมีพนักงานเข็นรถอาหารเครื่องดื่มมาให้เราได้ใช้เงินถึงที่เลยค่ะ และสำคัญที่สุดคือห้องน้ำค่ะ รถไฟสวิสทุก ขบวนมีห้องน้ำที่สะอาดมากค่ะ เราก็เลยถือคติว่าก่อนจะถึงที่หมายซัก 10 นาทีจะต้องเข้าห้องน้ำก่อนจะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายหาห้องน้ำเวลาไปเที่ยวค่ะ

โต๊ะทำงานเล็กๆพับเก็บได้ค่ะใน IC ค่ะ

ปลั๊คไฟอยู่ข้างบนค่ะ ชาร์จได้ตลอดเวลาไม่ต้องกลัวแบตหมด

รถไฟที่เอามาเล่าให้ฟังวันนี้ทั้งหมดเป็นรถไฟของสวิสนะคะ แต่การรถไฟสวิสไม่ได้ให้บริการเฉพาะรถไฟของสวิสเท่านั้นนะ รถไฟจากฝรั่งเศสอย่าง TGV หรือ  Deutsche Bahn (DE) กะ Intercity Express (ICE) ของเยอรมันก็มาวิ่งอยู่ที่สวิสให้เราได้นั่งเล่นอยู่บ่อยๆค่ะแต่ยังไงในความรู้สึกเรารถไฟสวิสก็ดีว่าอยู่ดีค่ะ
สุดท้ายโฆษณาตัวใหม่ของ SBB ค่ะคอนเซ็ปก็คือบ้านไปที่ไหนๆมาพอกลับมาที่รถไฟก็เหมือนเป็นบ้านค่ะ เราว่าไอเดียเค้าน่ารักเชียวเลยเอามาฝากให้ดูกันนะคะ



คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าวิธีการใช้รถไฟที่นี่มันแสนจะง่ายและสะดวกสบายกับชีวิตประจำวันแค่ไหนค่ะ








1 comment:

  1. เมื่อไหร่บ้านเราจะมีแบบนี้บ้างน้า

    ReplyDelete